คำแถลงข่าวหลังรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

8 สิงหาคม 2554 เวลา 19.10 น. ณ บริเวณห้องพิธี ชั้น 7 ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวกับประชาชน

"ในวาระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ดิฉันดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อรับสนองพระบรมราชโองการ รับใช้เบื้องพระยุคลบาท ประเทศชาติและประชาชนในวาระนี้ ดิฉันถือว่าเป็นเกียรติยศอันสูงสุดและเป็นมิ่งมงคลแก่ชีวิตอย่างหาที่สุดมิ ได้ ดิฉันและครอบครัวรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ หัวเป็นล้นพ้น นับเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ ที่ดิฉันเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ด้วยความจงรักภักดี ดิฉันพร้อมจะทุ่มเท มุ่งมั่นอย่างเต็มที่ และจะอุทิศตนเพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ และประชาชนตลอดไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา ในเดือนธันวาคมนี้ และในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวันที่ 12 สิงหาคมปีนี้ นับเป็นวโรกาสพิเศษที่สำคัญยิ่งต่อพี่น้องคนไทยทุกคน ดิฉันขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่าได้ร่วมกันจัดงานถวายพระพร เพื่อแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแด่ล้นเกล้าทั้งสองพระองค์ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ทุกท่านโดยพร้อมเพรียงกัน
ดิฉันขอขอบคุณพี่น้องประชาชนคนไทย ขอบคุณสมาชิกพรรค ขอบคุณพี่น้องผู้ร่วมอุดมการณ์ประชาธิปไตย และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกท่าน ที่ได้กรุณาให้โอกาสแก่ดิฉัน ได้ทำงานในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ดิฉันถือเป็นภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ ที่ต้องการพลังจากทุกภาคส่วนเพื่อร่วมกันผลักดันให้ประเทศชาติของเราก้าว ข้ามอุปสรรคและปัญหาต่าง ๆ เพื่อประกาศเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ให้เป็นที่ประจักษ์และยอมรับของนานาประเทศในสากล

ดิฉันยังระลึกถึง พระบรมราโชวาท ที่ได้พระราชทานแก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24 มกราคม ปี พ.ศ.2532 ซึ่งดิฉันเป็นบัณฑิตจบใหม่รุ่นนั้น ดิฉันขออัญเชิญพระบรมราโชวาทบางตอน ดังนี้
"...ประการที่สำคัญ ต้องพยายามใช้ความคิด ความเฉลียวฉลาด ปรับปรุงตัว ปรับปรุงงานให้มีประสิทธิภาพเสมอ พร้อมทั้งพยายามประสานงาน ประสานประโยชน์ให้แก่ทุกคนและทุกฝ่ายที่สัมพันธ์เกี่ยวข้องด้วย โดยสอดคล้องทั่วถึง งานจึงจะสัมฤทธิผลเป็นประโยชน์ที่พึงประสงค์ คือ เป็นประโยชน์แก่งาน แก่ตัวผู้ปฏิบัติและแก่ส่วนรวม พร้อมทุกส่วน จึงขอให้บัณฑิตนำสิ่งที่พูดนี้ ไปพิจารณาให้เข้าใจเพื่อใช้เป็นแนวทางต่อไป..." ซึ่งดิฉันได้น้อมนำมาเทิดทูนไว้เหนือเกล้า เหนือกระหม่อม และจะใช้เป็นแนวทางในการทำงานเพื่อผลักดันงานต่างๆ ของรัฐบาล ต่อไป
ดิฉันขอปวารณาตน ที่จะนำความรู้ ความสามารถและสติปัญญาทุ่มเททำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และตั้งใจอย่างเต็มที่ เพื่อนำพาประเทศของเราไปสู่ความสงบสุข ความสามัคคีปรองดอง และมีเจตนารมณ์แน่วแน่ที่จะเข้ามาทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ดิฉันพร้อมที่จะทำงานร่วมกับพี่น้องข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน สื่อมวลชนทุกแขนง และพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่อย่างตั้งใจและเต็มใจ เพื่อให้ความสุขนั้นกลับคืนมาสู่พี่น้องคนไทยทั้งประเทศอีกครั้ง
ดิฉันตระหนักดีว่า การเป็นนายกรัฐมนตรีผู้หญิง ในขณะนี้ เป็นความท้าทายและความคาดหวังอย่างมากจากพี่น้องประชาชน แต่ดิฉันเชื่อมั่นว่าความเป็นผู้หญิง จะไม่เป็นอุปสรรคในการทำงาน แต่ในทางตรงข้ามความเข้มแข็งที่ควบคู่กับความอ่อนโยน การรับฟังปัญหาทัศนะที่แตกต่าง จะช่วยให้เรานั้นมองเห็นทางเลือกใหม่ ๆ ในการแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น
สุดท้ายนี้ดิฉันขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ที่ให้โอกาสดิฉัน ซึ่งถือว่าเป็นพันธะสัญญาทางใจ ให้ตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ในการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ด้วยความภาคภูมิใจ " ดิฉันจะมุ่งมั่น สร้างสุข สลายทุกข์ " ให้แก่พี่น้องประชาชนอย่างสุดกำลังความสามารถ ดิฉันจะไม่ทำเพื่อกลุ่มใด กลุ่มหนึ่ง แต่จะทำเพื่อประเทศชาติและคนไทยทุกคน"

กกต.ยันจัดการเลือกตั้งโปร่งใส

สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง แถลงว่า ตามที่มีสื่อมวลชนบางแขนง ได้นำเสนอความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลที่มีความประสงค์ถอดถอนคณะกรรมการการ เลือกตั้ง รวมถึง ได้ออกแถลงการณ์การทำหน้าที่ของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยให้เหตุผลว่า มีพฤติการณ์จงใจใช้อำนาจโดยขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ฝ่าฝืน ละเลยต่อการทำหน้าที่ ไม่บังคับใช้กฎหมายโดยพลัน และประเด็นอื่นๆ อีกนั้น
     สำนักประชาสัมพันธ์ ขอชี้แจงว่า หลังจากที่มีพระราชกฤษฎีกายุบสภา ที่มีผลบังคับใช้ ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2554 นั้น สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ดำเนินการในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ บุคลากร การประสานความร่วมมือกับองค์กรต่างๆ เพื่อให้การจัดการเลือกตั้งเป็นไปด้วยดี ตั้งแต่การรับสมัคร ส.ส.ทั้งแบบบัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง การตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร การดำเนินการเกี่ยวกับจัดให้มีการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร การจัดให้มีการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้ง และนอกเขตจังหวัด ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้การเลือกตั้งในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยถูกต้องตามกฎหมาย โปร่งใส สุจริต และเที่ยงธรรม ทั้งนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการใช้ สิทธิเลือกตั้งทั้งการใช้สิทธิในวันเลือกตั้งจริง และการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าตามบทบัญญัติของกฎหมาย
     ในการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ผ่านมามีผู้แทนจากนานาชาติที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ ในการจัดการเลือกตั้งในระดับสากล จาก 11 ประเทศ รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศ ได้มาสังเกตการณ์การเลือกตั้งในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นการเปิดกว้างเพื่อรับทราบความคิดเห็นและเป็นการสะท้อนมุมมองใน การจัดการเลือกตั้งของไทย โดยปรากฏตามสื่อสารมวลชนทั่วไปว่า คณะผู้สังเกตการณ์ได้ชื่นชมกระบวนการจัดการเลือกตั้งของไทยว่ามีประสิทธิภาพ และสามารถดำเนินการจัดการเลือกตั้งได้อย่างเรียบร้อยเป็นผลดี โดยเป็นการเลือกตั้งที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
     ในส่วนของการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งนั้น กกต. ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนเป็นไปตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดด้วยความรอบคอบ และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยมิได้นิ่งเฉยละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด
     ส่วนกรณีที่มีการหยิบยกประเด็นการทำหน้าที่ของ กกต. เกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้า ซึ่งทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่าล้านคนเสียสิทธิ เข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายนั้น สำนักงาน กกต. ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับประชาชนทางสื่อทุกประเภทอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามการเลือกตั้งในวันที่ 3กรกฎาคม 2554 ที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกที่กฎหมายกำหนดให้วันเลือกตั้งล่วงหน้า มี 1 วัน ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 ทั้งนี้ ตามกฎหมายแล้วผู้ที่ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดหรือลงทะเบียน ประสงค์ใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรไว้แล้ว เมื่อใดก็ตามถ้าไม่แจ้งการเปลี่ยนแปลงภายในระยะเวลาที่กฎหมายระบุให้ดำเนิน การจะต้องใช้สิทธิ ณ สถานที่ที่ตนเองได้ลงทะเบียนไว้เดิมเท่านั้น ซึ่งเป็นกฎหมายที่ ทุกคนจะต้องปฏิบัติตาม แต่ในกรณีนี้ กกต. ก็กำลังพิจารณาว่าจะนำปัญหาดังกล่าวเสนอต่อรัฐสภาให้พิจารณาเพื่อให้มีการ แก้ไขกฎหมายให้เหมาะสมตรงตามความต้องการของประชาชนต่อไป สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งขอยืนยันว่า กกต. ได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด โดยมิเคยใช้อำนาจที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืน หรือละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด โดยมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะดำเนินการจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความ สุจริต โปร่งใส และเที่ยงธรรม ตามเจตนารมณ์ของกฎหมายและของประชาชนไทยทั้งปวง

การมีส่วนร่วมทางการเมือง

การมีส่วนร่วมในรูปแบบของกลุ่มผลประโยชน์

การรวมตัวกันของบุคคลเป็นกลุ่มบุคคลหรือองค์กรในสังคม มีเป้าหมายหลักอยู่ที่การรักษาผลประโยชน์ของกลุ่มตนเท่านั้น โดยไม่มีเป้าหมายที่จะเข้าไปเป็นรัฐบาลเพื่อบริหารประเทศแต่อย่างใด สำหรับเป้าหมายของแต่ละกลุ่มจะแตกต่างกันไป บางกลุ่มอาจเรียกร้องให้รัฐบาลทำตามสิ่งที่กลุ่มตนต้องการ เช่น การเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน ราคาพืชผลการเกษตร หรือเพื่ออำนวยความสะดวกแก่กลุ่มของตน หรืออาจเรียกร้องให้รัฐบาลจัดทำนโยบายหรือโครงการที่กลุ่มตนจะได้เป็นโยชน์ เป็นต้น

การมีส่วนร่วมในรูปแบบของพรรคการเมือง การรวมกลุ่มของบุคคลที่มีความเชื่อทางการเมือคล้ายคลึงกัน มีเป้าหมายหลักอยู่ที่การส่งสมาชิกลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อไปทำหน้าที่ทั้ง ฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ อย่างไรก็ตามการเข้ามารวมตัวกันในรูปแบบพรรคการเมืองยังมีเป้าหมายอื่นอีก เช่น การให้การศึกษาทางการเมืองแก่ประชาชน การดูแลและรักษาผลประโยชน์ของส่วนร่วม การสร้างผู้นำทางการเมือง การควบคุมและติดตามตรวจสอบทางการเมือง ฯลฯ ในส่วนของประชาชนสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในพรรคการเมืองได้ เช่น การสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง การบริจาคเงินสนับสนุนกิจกรรมของพรรคการเมือง การช่วยรณรงค์หาเสียงในช่วงที่มีการเลือกตั้ง เป็นต้น

การมีส่วนร่วมในรูปแบบของการไปใช้สิทธิเลือกตั้ง การออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ถือเป็นรูปแบบการมีส่วนร่วมที่สำคัญของการบริหารประเทศภายใต้ระบอบ ประชาธิปไตย แต่สิ่งที่ควรตระหนักคือ จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวนมากไม่ได้หมายความถึงความเป็นประชาธิปไตย ของประเทศ หากแต่การใช้สิทธิเลือกตั้งในรูปแบบประชาธิปไตยที่แท้จริง ต้องมีลักษณะดังนี้

การใช้สิทธิโดยอิสระ คือ การใช้สิทธิเลือกตั้งจะต้องเกิดจากความสมัครใจ ไม่ได้เกิดมาจากการบังคับหรือข่มขู่หรือสัญญาว่าจะให้ผลตอบแทนในการออกไปใช้ สิทธิเลือกตั้ง

การเลือกตั้งโดยลับ การออกเสียงต้องกระทำแต่เพียงลำพัง โดยไม่มีผู้อื่นอยู่ร่วมด้วย หรือสามารถล่วงรู้ได้ว่าผู้มีสิทธิเลือกผู้สมัครคนใดหรือออกเสียงอย่างไร การออกเสียงเลือกตั้งของบุคคล ไม่สามารถประกาศให้ทราบเป็นการทั่วไปได้

ความเสมอภาคในการเลือกตั้ง บุคคลแต่ละคนมีสิทธิออกเสียงได้คนละหนึ่งเสียงเท่านั้น

ความเป็นกลาง บุคคลที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวกับในการเลือกตั้งทุกคนต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเที่ยงธรรม ไม่ลำเอียงเข้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

หนึ่งตะแกร่งร่อนผู้แทนท้องถิ่นสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

        จัดการเลือกตั้งท้องถิ่นกว่า 1,593 แห่ง มีผู้ได้รับการเลือกตั้ง 4,894 คน สำหรับท้องถิ่นบางแห่งที่มีการเลือกตั้งโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม กกต.สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 19 ราย สั่งเลือกตั้งใหม่ 36 แห่ง สั่งนับคะแนนใหม่ 3 แห่ง จัดให้มีการลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอนนายก อบต. 3 แห่ง” คำกล่าวตอนหนึ่งในการแถลงผลการทำงานของ กกต.รอบ 8 เดือนที่ผ่านมาของ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง 

ลำพังเพียง กกต. 5 ท่าน การจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น ทุกสัปดาห์ ทุกเดือน คงเป็นการทำงานที่ลำบากยากยิ่ง หากไม่มีตัวจักรสำคัญอย่างคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองท้องถิ่น ซึ่งเรียกกันในชื่อย่อว่า กกต.ท้องถิ่น เป็นผู้รวมรับผิดชอบเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่น กกต.จังหวัด จะทำหน้าที่เฟ้นหาบุคคลจากรายชื่อที่คณะกรรมการสรรหา กกต.ท้องถิ่น ทำการคัดเลือกมาแล้ว 8 คน ให้เหลือเพียง 4 คน และแต่งตั้งหัวหน้าพนักงานส่วนท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะมีการเลือกตั้งอีก 1 คน (ซึ่งก็คือปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั่นเอง) เป็นกกต.ท้องถิ่น และ ผอ.เลือกตั้งท้องถิ่น รวมกรรมการอีก4 คน เป็นอันครบองค์ประกอบ กกต.ท้องถิ่น 5 คน

เมื่อประกาศให้ท้องถิ่นไหนมีการเลือกตั้งผู้บริหารและสมาชิกสภาท้องถิ่นแล้ว กกต.ท้องถิ่นจะมีหน้าที่ เช่น

·         กำหนดหน่วยเลือกตั้ง และแต่งตั้งเจ้าพนักงานดำเนินการเลือกตั้ง เช่น กรรมการประจำหน่วย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

·         ดำเนินการเกี่ยวกับบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ชื่อตกชื่อหล่น เพิ่มชื่อ-ถอนชื่อ

·         รับสมัครเลือกตั้ง

·         กำหนดสถานที่และรวบรวมผลคะแนนของทุกหน่วยเลือกตั้งและรายงานผลการเลือกตั้งต่อ กกต.จังหวัด

·         กำกับดูแล อำนวยการลงคะแนน การนับคะแนนเลือกตั้งและเข้าไปในที่เลือกตั้ง

·         จัดอบรมเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้ง

·         แต่งตั้งคณะทำงานในการส่งมอบและรับมอบหีบบัตรเลือกตั้ง บัตรเลือกตั้ง แบบพิมพ์และวัสดุอุปกรณ์การเลือกตั้งทั้งก่อนและหลังการลงคะแนน

·         ร้องทุกข์ดำเนินคดีแก่ผู้กระทำผิดกฎมายเลือกตั้งในฐานะผู้เสียหาย ฯลฯ

เมื่อ สิ้นสุดการเลือกตั้ง กกต.ท้องถิ่นต้องทำหน้าที่ประกาศผลการรวมคะแนนเลือกตั้ง การเก็บรักษาเอกสารแบบพิมพ์ที่ใช้ในการเลือกตั้งไว้ในที่ปลอดภัย การจัดทำประกาศบัญชีรายชื่อผู้เสียสิทธิ

และ ในฐานะที่ กกต.ท้องถิ่นเป็นเจ้าพนักงาน หากทำหน้าที่โดยสุจริตกฎหมายย่อมคุ้มครอง แต่ถ้ากระทำการไม่สุจริต เที่ยงธรรม หรือไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำตักเตือน กกต.อาจสั่งให้พ้นจากหน้าที่ และแต่งตั้งบุคคลอื่นปฏิบัติหน้าที่แทน

การ เลือกตั้งท้องถิ่น สุจริต โปร่งใส และเที่ยงธรรม .... ทุกคนทำได้ เพียงตรวจสอบคุณสมบัติว่าตนเองมีความรู้ ความสามารถ ซื่อสัตย์ สุจริต ตั้งใจจริงในการเป็นกรรมการคัดกรองเลือกสรรผู้แทนในท้องถิ่น ก็สมัครเป็น กกต.ท้องถิ่น ร่วมทำงานกับ กกต. เพื่อให้ได้ผู้แทนที่ดีมีคุณธรรมเข้าไปพัฒนาท้องถิ่นให้อยู่ดีกินดีอย่าง ยั่งยืน

 อ้างอิง ชื่อผู้เขียน   เรืองโรจน์ จอมสืบ